เมื่อบ่ายวันที่ 14 มิถุนายน 2024 พันเอกจาง เสี่ยวกัง รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกระทรวงกลาโหม และโฆษกกระทรวงกลาโหมจีน ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกองทัพในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่กองทัพสหรัฐฯ ประกาศแผนที่จะปกป้องไต้หวัน หากเกิดความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวันขึ้น
ก่อนหน้านี้ ไล่ ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ไปเยี่ยมชมกองกำลังป้องกันชายฝั่งที่เมืองไถตง พร้อมถ่ายรูปคู่กับรถยิงขีปนาวุธ “Xiong-3” โดยประกาศว่าจะใช้ยุทธศาสตร์ “ยึดบกเพื่อควบคุมทะเล” ในการต่อต้านจีน ขณะเดียวกัน ฝ่ายกลาโหมไต้หวันก็ขู่ว่าจะใช้สิทธิป้องกันตัวเอง หากกองทัพจีนเข้ามาในพื้นที่ 12 ไมล์ทะเลรอบเกาะไต้หวัน
พันเอกจาง เสี่ยวกัง ตอบโต้อย่างรวดเร็วว่า ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีน ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิที่จะอ้างว่ากำลังป้องกันตัวเอง และการกระทำของรัฐบาลไต้หวันไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญแต่อย่างใด แต่กลับเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอจากภายใน เขายืนยันว่ากองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนเป็นกำลังที่ยากจะต้านทาน และพร้อมที่จะปราบปรามการกระทำใดๆ ที่พยายามแบ่งแยกดินแดนไต้หวันอย่างเด็ดขาด
ปัญหาไต้หวันนับเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนมาก เพราะเกี่ยวพันกับปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และประวัติศาสตร์ระหว่างจีนกับไต้หวัน รวมถึงเกี่ยวโยงกับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ด้วย
ฝ่ายจีนยืนยันหลักการ “จีนเดียว” มาโดยตลอด และพยายามผนวกไต้หวันกลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจีน ทั้งด้วยสันติวิธีและการคุกคามทางทหาร ขณะที่ไต้หวันต้องการรักษาเอกราชและอิสรภาพของตนเอง พร้อมพัฒนาสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ เพื่อถ่วงดุลอำนาจจีน
การที่จะประเมินว่าฝ่ายใดถูกต้องชอบธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละฝ่ายต่างมีเหตุผลและความชอบธรรมของตัวเอง อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญคือทุกฝ่ายควรใช้ความยับยั้งชั่งใจ ไม่ใช้กำลังหรือวิธีรุนแรง หากแต่ควรแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีและการเจรจา เพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย