ในโลกโซเชียลมีเดียยุคปัจจุบัน เรามักจะเห็นคนเอาคำว่า “หัวหน้า” และ “ผู้นำ” มาเปรียบเทียบกันอยู่บ่อยครั้ง มีการยกย่องผู้นำว่าเป็นสิ่งที่สังคมต้องการ ยกย่องไปพร้อมกับการตำหนิหัวหน้าที่ขาดภาวะผู้นำว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา (แบบอ้อมๆ) แต่เมื่อเรามองลึกลงไป จะพบว่าแท้จริงแล้วสองคำนี้มีความแตกต่างกันโดยพื้นฐาน บทบาทหน้าที่ของมันไม่เหมือนกัน และการนำมาเทียบกันแบบขาวกับดำนั้นไม่ถูกต้องนัก เปรียบเหมือนการนำแอปเปิ้ลกับส้มมาชั่งน้ำหนักในตราชั่งเดียวกัน มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย
“หัวหน้า” เป็นคำที่บอกถึงตำแหน่งหน้าที่และขอบเขตความรับผิดชอบในการทำงานให้บรรลุผล ส่วน “ผู้นำ” เป็นคำที่พูดถึงคุณลักษณะหรือทักษะส่วนบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่อผู้อื่น คนที่เป็นหัวหน้าไม่จำเป็นต้องมีภาวะผู้นำสูงเสมอไป ขึ้นอยู่กับบริบทและข้อจำกัดในการทำงานด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล อยากผลักดันนโยบายใหม่ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ติดขัดเรื่องงบประมาณและระเบียบราชการที่เข้มงวด ทำให้ไม่สามารถแสดงภาวะผู้นำได้เต็มที่นัก ถึงแม้ว่าจะเป็นหัวหน้าสูงสุดของจังหวัดก็ตาม
ในทางกลับกัน เราอาจเคยเจอหัวหน้าฝ่ายขายที่กระตือรือร้น คอยสร้างแรงจูงใจให้ลูกน้อง ผลักดันยอดขายจนทำลายสถิติ ด้วยการปลุกพลังและความมุ่งมั่นของทีมงาน ถึงแม้เขาจะเป็นเพียงหัวหน้าระดับฝ่าย แต่ก็มีภาวะผู้นำสูงจนสามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับบริษัทได้
สิ่งสำคัญที่เราควรตระหนักคือ คุณสมบัติความเป็นผู้นำไม่ได้ผูกติดกับตำแหน่งหัวหน้าเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถพัฒนาขึ้นมาได้ด้วยตนเอง แม้คุณจะไม่ได้เป็นหัวหน้าในองค์กร แต่คุณก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้นำได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้นำในทีม ผู้นำในการขับเคลื่อนงานที่รับผิดชอบ หรือแม้กระทั่งการเป็นผู้นำชีวิตของตัวเอง
ดังนั้น เรามาลองมองหาความเป็นผู้นำในตัวเรากันดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นความกล้าที่จะแสดงความคิดสร้างสรรค์ การมีวิสัยทัศน์และจินตนาการ ความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจและโน้มน้าวใจผู้อื่น หรือการลงมือทำและกล้าเผชิญกับความท้าทาย บางทีสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นเชื้อเพลิงแห่งความเป็นผู้นำในตัวคุณที่กำลังรอการจุดประกายอยู่ก็เป็นได้
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเราจะมีตำแหน่งอะไรในองค์กร แต่เราทุกคนล้วนมีพลังที่จะเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น ขอเพียงเรามีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และเติบโต เพียงเท่านี้ เราก็สามารถปลดปล่อยศักยภาพความเป็นผู้นำในตัวเราออกมา แล้วร่วมกันขับเคลื่อนสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย
เรื่อง: ทองแท้ รังสรรค์สนิท