บนโลกใบนี้ มีผู้คนมากมายที่เกิดมาพร้อมกับอุปสรรคและความท้าทาย บ้างยอมแพ้ บ้างสู้ไม่ถอย แต่ไม่มีใครเลือกเกิดมาพิการ ทว่ามีชายคนหนึ่งที่เลือกจะใช้ชีวิตท่ามกลางข้อจำกัดทางร่างกายอย่างสง่างาม เขาคือ ลัวหว่างจี๋ หนุ่มน้อยชาวจีนที่เกิดมาพร้อมกับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทว่าไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรม ลุกขึ้นสู้ สร้างแรงบันดาลใจผ่านพลังแห่งความฝัน เรื่องราวของเขาจึงไม่ใช่แค่ตำนานคนพิการที่ประสบความสำเร็จ แต่คือบทพิสูจน์ถึงพลังแห่งหัวใจมนุษย์
ในปี 1996 ณ เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน ได้มีชายน้อยคนหนึ่งลืมตาดูโลก นั่นคือ ลัวหว่างจี๋ แต่น่าเศร้าที่เขาต้องเผชิญกับความโหดร้ายของชะตากรรมตั้งแต่ลมหายใจแรก เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Amyotrophic Lateral Sclerosis หรือ ALS) ซึ่งเป็นโรคร้ายที่ทำให้ร่างกายอ่อนแรง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และค่อยๆ เสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ จนในที่สุดอาจเสียชีวิตได้
ตั้งแต่วัยเพียง 3 ขวบ ลัวหว่างจี๋ก็ต้องเข้าเรียนอนุบาล แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาต้องหยุดเรียนหลังจากไปโรงเรียนได้เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ และโลกทั้งใบของเด็กน้อยก็หดแคบลงเหลือเพียงห้องนอนขนาด 10 ตารางเมตร ที่มีเครื่องฉายโปรเจคเตอร์อยู่บนเพดาน ข้างๆ เป็นชั้นวางคอมพิวเตอร์และที่วางหนังสือ
แม้จะไม่สามารถไปโรงเรียนได้ แต่ลัวหว่างจี๋ก็ไม่ย่อท้อ เขาเรียนรู้การอ่านและการสะกดคำจากซับไตเติ้ลในรายการโทรทัศน์ด้วยตัวเอง และภายใต้การสนับสนุนของแม่ เขาได้อ่านหนังสือมากมายหลายประเภท โดยเฉพาะนิยายไซอิ๋ว ที่ตัวละครเอกอย่างซุนหงอคง ได้สะท้อนภาพชีวิตและจุดประกายความหวังให้กับเขา
“ผมรู้สึกเสมอว่า ซุนหงอคงเป็นคนเดียวในโลกที่มีประสบการณ์เหมือนผม ตอนที่ถูกกดทับอยู่ใต้ภูเขา ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะออกมาได้ ผมเชื่อมาตลอดว่าผมเหมือนกับเขา สักวันหนึ่งจะได้หลุดพ้นจากความมืดมิดไม่มีที่สิ้นสุด กระโดดออกมา ให้ทุกคนได้เห็นว่า ผมเป็นคนเหมือนพวกคุณ ผมมีความฝัน มีความรู้สึก รู้จักคิด”
วันเวลาผ่านไปช้าๆ จนกระทั่งลัวหว่างจี๋อายุได้ 20 ปี เขาก็ได้ทำสิ่งที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อน นั่นคือการเขียนบทความวิเคราะห์ตัวละครซุนหงอคง ความยาวกว่า 2,000 ตัวอักษร โดยเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ Zhihu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มถาม-ตอบชื่อดังของจีน บทความนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ถูกแชร์ต่อไปในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง มีสื่อหลายสำนักขอนำไปเผยแพร่ จนสร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นอย่างมาก นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตที่พาเขาก้าวเข้าสู่เส้นทางของนักเขียนอย่างเต็มตัว
หลังจากผลงานชิ้นแรกของลัวหว่างจี๋กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ เขาก็เริ่มได้รับโอกาสในการเขียนและสร้างรายได้จากผลงานเขียนมากขึ้นเรื่อยๆ บทความเชิงวิเคราะห์อันเฉียบคมทั้งในแวดวงภาพยนตร์และวรรณกรรม ทำให้เขาแจ้งเกิดเป็นนักวิจารณ์ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง
แม้จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการในการทำงาน ทั้งเรื่องสุขภาพ การเดินทาง หรือการประสานงานต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาแม่และผู้ช่วยเหลือ แต่ลัวหว่างจี๋ก็ไม่เคยหยุดฝัน ยังคงเขียนต่อไปอย่างมุ่งมั่นและสร้างสรรค์
บทความวิเคราะห์เชิงลึกของเขา สามารถสร้างรายได้มากกว่าหนึ่งหมื่นหยวนต่อชิ้น ซึ่งนับเป็นค่าตอบแทนที่สูงมากสำหรับนักเขียนรุ่นใหม่ และเมื่อผลงานของเขาเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งมีสำนักพิมพ์หลายแห่งทาบทามให้รวมเล่มเป็นหนังสือ ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ผลงานของเขาพุ่งสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว ผู้ติดตามในโลกโซเชียลเพิ่มก็ขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทั่งได้ริเริ่มทำบัญชีวิดีโอสั้นของตัวเอง ปรากฏว่าก็ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน รายได้ดีจนซื้อบ้านให้แม่ได้สำเร็จ
เมื่อหลายปีก่อน ลัวหว่างจี๋เคยไปดูภาพยนตร์เรื่อง “ยี่สิบสอง” (二十二) แต่ปรากฏว่าโรงภาพยนตร์ในเมืองหูหลานที่เขาไปนั้นไม่มีทางลาดสำหรับรถเข็น ทำให้เขาเข้าไปไม่ได้ แทนที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เขากลับเลือกจากไป แล้วกลับมาเขียนบทความชื่อ “ขอโทษนะ ‘ยี่สิบสอง’ ฉันไม่ได้ดู” และมีคนอ่านกว่า 300,000 คน โดยเรื่องนี้ก็ได้กระตุ้นให้สังคมหันมาให้ความสำคัญกับสิทธิในการดูภาพยนตร์ของคนพิการมากขึ้น
ในปี 2019 ลัวหว่างจี๋ได้รับเชิญไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อ “เจี้ยนจื้อหรูเมี่ยน” (见字如面) ซึ่งเป็นรายการที่ให้แขกรับเชิญอ่านจดหมายที่ตนเองเขียนขึ้น ในรายการนั้น เขาได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึง “แฟนสาวในอนาคต” เพื่อแสดงความปรารถนาที่อยากมีคู่ชีวิต การกระทำที่กล้าหาญครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าถึงแม้จะมีข้อจำกัดทางกาย แต่เขาก็ไม่ละทิ้งความฝันในด้านความรัก กลายเป็นแรงบันดาลใจและไอดอลของใครหลายคนที่ได้รู้จักเขาผ่านจอโทรทัศน์ในมุมมองใหม่
ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ลัวหว่างจี๋ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว บทความของเขาเป็นที่ยอมรับในแวดวงนักวิจารณ์ เชิญไปร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ของผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังอยู่เสมอ ในปี 2020 เมื่อเขาอายุได้ 24 ปี ก็ได้ขยับขยายจากนักเขียนอิสระ ทำบริษัทสื่อร่วมกับเพื่อนสนิท ปีถัดมาก็เริ่มหาพนักงานเพิ่ม เพื่อขยายไลน์ธุรกิจ ทำคอนเทนต์รูปแบบใหม่ๆ
จนถึงตอนนี้ ลัวหว่างจี๋มีผู้ติดตามบนโลกออนไลน์กว่า 5 ล้านคน มีรายได้ต่อปีหลักล้าน ซื้อบ้านและรถยนต์ให้แม่ได้สำเร็จ สมกับที่หลายๆ คนยกย่องให้เขาเป็น “ผู้ชนะของชีวิต” แต่สำหรับคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดนี้ ย่อมเข้าใจดีว่ามันไม่ได้มาง่ายๆ เพราะสภาพร่างกายที่พิการ การใช้ชีวิตแม้แต่ขั้นพื้นฐานก็ต้องอาศัยผู้อื่นช่วยเหลือ แต่นั่นไม่อาจหยุดยั้งพลังแห่งความฝันและความมุ่งมั่นของเขาได้เลย
ลัวหว่างจี๋คือตัวอย่างของคนที่ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ไม่ว่าชีวิตจะโหดร้ายแค่ไหน เขาก็ยังเลือกที่จะสู้ ใช้พรสวรรค์ด้านการเขียนที่มี ถ่ายทอดความคิด จินตนาการ อารมณ์ความรู้สึกผ่านตัวอักษร พิสูจน์คุณค่าของตัวเองจากภายในจิตใจ ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอกที่บกพร่อง แม้วันนี้เขาจะประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของสังคมแล้ว แต่สำหรับเขา การได้ทำในสิ่งที่รัก ได้แบ่งปันแง่คิดดีๆ สู่ผู้คน นั่นก็คือรางวัลชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วครับ
อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังมานี้ ลัวหว่างจี๋อัปเดตงานเขียนช้าลงเรื่อยๆ สาเหตุก็คือ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เพื่อเอาชีวิตรอด เขาต้องใส่ห่วงศีรษะเข้าไป และช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็เขียนหนังสือและตัดต่อวิดีโอ ไปพร้อมๆ กับการใส่ห่วงศีรษะ และแม้จะพยายามทำความสะอาดแผลอยู่ทุกวัน แต่กลับมีอาการติดเชื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คบ่อยๆ
“ตั้งแต่ผ่าตัดใส่ห่วงศีรษะ ผมทรมานมากจริงๆ”
24 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา ลัวหว่างจี๋ได้เข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลังคด เวลาผ่านไปหลายเดือนจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีอัพเดทใด ๆ บนโลกโซเชียลเลย
สุดท้ายนี้ ลัวหว่างจี๋ยังคงมีเป้าหมายอีกมากที่รอการไขว่คว้า ทั้งในเชิงธุรกิจ อย่างการสร้างสตูดิโอ ผลิตภาพยนตร์ของตัวเอง เขียนหนังสือรวมเล่ม และในแง่ส่วนตัว อย่างการหาแฟนสาวแล้วแต่งงานมีครอบครัวที่อบอุ่น หวังว่าการผ่าตัดจะเป็นไปด้วยดีและกลับมาพิชิตเป้าหมายใหม่ๆ ที่กำลังรออยู่
ไม่ว่าอนาคตเขาจะไปถึงฝั่งฝันได้มากแค่ไหน สิ่งที่ลัวหว่างจี๋ทำได้แล้วในวันนี้ คือการใช้ชีวิตอย่างมีพลัง สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมายว่า ถึงแม้ชะตาชีวิตจะไม่สมปรารถนา แต่เรายังคงมีสิทธิ์ที่จะเติมเต็มชีวิตให้สวยงามด้วยตัวเองได้
停更之前,这将是我最后一篇影评 (2024, March 22). Weibo
https://weibo.com/ttarticle/p/show?id=2309405014787766747194
罗罔极 身体和思维都在路上. (2022, February 18). 三月风. 中国残疾人杂志社. https://mp.weixin.qq.com/s?__biz=MzAxMDA1Njg5Mg==&mid=2650459105&idx=1&sn=c5d20fb47e8f23ea523699599edcb02c