เมื่อวันคืนวันที่ 14 มิถุนายน 2024 เวลาประมาณ 21.30 น. ที่ถนนในเมืองคาวาซากิ เขตมิยะมาเอะ ซึ่งเป็นถนนของเทศบาลเมือง มีอุบัติเหตุที่รถจักรยานยนต์ของนาย Kazuyoshi Mori วัย 51 ปี ประธานบริษัท ถูกรถยนต์ที่ขับตามมาด้านหลังชนท้าย ส่งผลให้นาย Mori ถูกชนที่หน้าอกอย่างแรงและเสียชีวิตระหว่างถูกนำตัวไปโรงพยาบาล
สถานีตำรวจมิยะมาเอะ จังหวัดคานากาวะ ได้จับกุมชายอายุ 61 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์คันนี้ ซึ่งอ้างว่าเป็นชาวโตเกียว เขตโอตะ และไม่มีอาชีพ ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บตามกฎหมายการลงโทษการกระทำที่ผิดกฎจราจร (โทษฐานขับรถประมาท) และถูกจับกุมขณะกำลังก่อเหตุ จากการตรวจลมหายใจของชายคนนี้ พบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าค่ามาตรฐานถึง 4 เท่า สถานีตำรวจกำลังสอบสวนในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายจราจร (ขับรถขณะมึนเมา) และข้อหาอื่นๆ
ตามการรายงาน ประมาณ 10 นาทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ ได้มีการแจ้งเหตุ 110 ว่ามีรถจอดอยู่บนถนน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง เข้าไปพูดกับชายที่อยู่ในรถ ปรากฏว่าชายคนนั้นกลับขับรถออกไปอย่างรวดเร็วและไปชนรถจักรยานยนต์ที่ระยะทางประมาณ 700 เมตร หลังจากทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้ว ชายคนนั้นลงจากรถและพยายามหลบหนีประมาณ 50 เมตร แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ ชายคนนี้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า “ผมดื่มสุรามาจึงหลบหนี”
เมื่อพูดถึงอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับในประเทศญี่ปุ่น สถิติล่าสุดจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น (National Police Agency) ระบุว่า ในปี 2021 มีอุบัติเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่ทั้งสิ้น 14,636 ครั้ง ลดลง 1,279 ครั้ง หรือ 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้จะมีแนวโน้มลดลง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 4.8% ของอุบัติเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนท้องถนนในญี่ปุ่น
จากสถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า แม้ประเทศญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อเรื่องความมีระเบียบวินัยของผู้คน แต่ปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่ก็ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งในแง่ของการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด การรณรงค์สร้างจิตสำนึก และมาตรการป้องกันต่างๆ เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญที่หลายประเทศรวมถึงไทยสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของตนเองได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบสัดส่วนอุบัติเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ต่ออุบัติเหตุทั้งหมดแล้ว ญี่ปุ่นยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหลายประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพของมาตรการป้องกันและลงโทษที่เข้มงวดอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อุบัติเหตุลดลงอย่างยั่งยืน และทำให้ท้องถนนปลอดภัยสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง
แล้วเมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและไทยในปี 2021 จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน
ในประเทศไทย จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ พบว่าในปี 2021 มีอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับทั้งสิ้น 26,640 ครั้ง คิดเป็น 33.1% ของอุบัติเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนท้องถนน ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนของญี่ปุ่นที่อยู่ที่ 4.8% ถึงเกือบ 7 เท่า นอกจากนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับในไทยก็อยู่ที่ 7,303 ราย หรือประมาณ 35.7% ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนทั้งหมด
ตัวเลขที่แตกต่างกันอย่างมากนี้สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย การสร้างวินัยจราจร และมาตรการป้องกันในประเทศญี่ปุ่นที่ดีกว่าไทยค่อนข้างมาก แม้ญี่ปุ่นจะมีจำนวนประชากรและยานพาหนะมากกว่าไทยก็ตาม อย่างไรก็ดี สถิติของญี่ปุ่นก็ยังคงสูงกว่าหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว จึงยังต้องพัฒนาต่อไป
ในขณะที่ประเทศไทย ถึงแม้จะมีการรณรงค์และออกมาตรการต่างๆ ในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาว แต่ปัญหาการดื่มแล้วขับก็ยังคงเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุอยู่เสมอ ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งสร้างจิตสำนึก เพิ่มความเข้มงวดของบทลงโทษ และบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้วินัยจราจรของคนไทยดีขึ้นอย่างจริงจังและยั่งยืน โดยอาจต้องศึกษาแนวทางจากประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างญี่ปุ่นเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยต่อไป